ขนาดตู้ปลาที่น่าเลี้ยง(เล่นๆ)

วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2558 · Posted in ,

หลายคนอยากจะเลี้ยงปลาไว้ดูเล่น แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกตู้ขนาดกี่นิ้วดีวันนี้มีขนาดที่น่าเลี้ยงมาบอกครับ จากประสบการณ์ของผมเอง

ตู้ที่น่าเลี้ยงต้องเป็นอย่างไรบ้าง
1. ล้างง่ายดูแลง่าย
2. ประหยัดพื้นที่ พลังงาน
3. ปรับเปลี่ยนทรรศนียภาพ(ภายในตู้)ได้ง่ายประหยัดเงิน จะได้ไม่เบื่อ
4. เลี้ยงปลาได้หลากหลายขนาด
5. ไม่มีเวลาดูแลมากนัก
6. เคลื่อนย้ายได้ง่าย
7. ฯลฯ

ถ้าหากมีความต้องการตู้อย่างรายการข้างบนนี้ผมแนะนำให้เลือกตู้ 20 นิ้วทรงธรรมดา(ไม่ใช่ทรงลึก)แบบไม่มีกรองข้างครับ ราคาประมาณ 250 บาท ขาตู้ประมาณ 350 บาท

เหตุผลเพราะว่าผมเลี้ยงปลามาก็ใช้ตู้มาหลายขนาด มี 24 นิ้ว 30 นิ้ว 36 นิ้ว หรือเล็กๆก็เคย เช่น 14,16,18,20 เคยใช้มาหมด จนล่าสุดใช้ตู้ 20 นิ้ว อยู่ซื้อมาพร้อมขาตั้ง รู้สึกว่ามันกำลังดี กระจกมันไม่หนาเห็นปลาในตู้ได้แบบชัดๆ ดูนานๆจะไม่เมื่อยตา เวลาล้างก็ง่ายจะจัดตู้ใหม่ก็ง่ายประหยัด

เรื่องการมอง ก็ถือว่าดูได้กำลังเต็มตาดี เป็นขนาดที่เล็กที่สุดที่จะสามารถดูปลาได้เต็มตาที่สุด

อุปกรณ์เสริมต่างๆ ก็มักจะผลิตขายเริ่มที่ตู้ขนาด 20 นิ้วนี่พอดี ถ้าหาก ซื้อตู้ 18 นิ้วมา ขาตั้งตู้ และโคมไฟ จะไม่มีขายต้องซื้อของตู้ 20 นิ้วมาใช้แทนเป็นต้น กรองแขวน ฯลฯ ก็ใส่เล่นเพิ่มได้ตอนหลังแล้วแต่จะเลือกใช้ ตามความเหมาะสมของปลาที่เลี้ยง

เวลาล้างก็ง่ายครับ เอาน้ำออกเอาปลาออก เหลือแต่ทราย ยกลงมาล้างก็ยังได้ น้ำก็ใช้ไม่มากนักเติมแป็บเดียวก็เต็ม มันประหยัดไปหลายอย่างจริงๆ ถ้าเทียบกับตู้ที่ใหญ่กว่านี้ไปอีกไม่กี่นิ้ว

ปลาที่เลี้ยงก็ค่อนข้างกว้าง ตั้งแต่กุ้งแคระ ปลาเล็กๆ หรือจะเป็นปลาทองขนาดกลางๆก็เลี้ยงได้ 3-4 ตัวกำลังสวย

อยู่ที่ความต้องการของท่านแต่ละคนแล้วหละครับว่าต้องการอย่างไร ในที่นี้แนะนำสำหรับคนที่อยากเลี้ยงแบบสบายๆดูแลง่ายไม่หนักมากทั้งแรงกายและแรงเงิน อยากดูน้ำใสไหลๆ บุ๋มๆ ตลอดเวลา ตั้งในห้องดูพักผ่อนชิวๆ ผมก็สรุปให้ว่าตู้ 20 นิ้วนี่แหละคือคำตอบครับ

การฟักไข่กุ้งแคระ หากแม่กุ้งตาย

วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 · Posted in ,

หลักการคือการจำลองสภาพให้เหมือนกับอยู่ในท้องแม่กุ้ง ให้ได้รับออกซิเจน น้ำไหลถ่ายเทตลอดเวลา เหมือนกับที่แม่กุ้งทำนั่นเอง

วิธีทำ
1.แกะไข่จากแม่กุ้งที่ตายแล้วออกมาใส่กระชอน
2.จากนั้นเอาหัวออกซิเจนไว้ใต้กระชอน
3.รอเวลาไข่กุ้งฟักประมาณ 1 เดือน

สำหรับแนวทางการทำก็ลองดูจากคลิปนี้ได้ครับ ใช้อุปกรณ์ที่หาง่ายๆ แล้วแต่ใครจะ DIY เพิ่มเติมตามความสะดวกเลยครับ



ถ้าวีดีโอไม่ขึ้นลองคลิ๊กเข้าไปดูที่ยูทูบดูครับ
https://www.youtube.com/watch?v=LVuqoLPQWOE





เครดิต http://crystalredshrimp-yoyo.blogspot.com/2011/04/diy-shrimp-egg-hatching.html

ปุ๋ยออสโมโคส กับไม้น้ำ

วันอังคารที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2556 · Posted in ,

อันนี้ผมเพิ่งรู้เลยครับคือผมปลูกบัวไว้แล้วมันไม่งามก็เลยไปหาซื้อปุ๋ยบัวมาใส่ เห็นมันถูกดี 15 บาท มีตั้งหลายลูกและลูกนึงก็ใหญ่มาก ตอนแรกผมนึกว่ามันเป็นปุ๋ยปั้นเป็นก้อน แต่พอแกะออกมาจากซองมาดูชัดๆ มันคือดินเหนี่ยวปั้นแล้วก็เอาออสโมโคสแปะๆเอาไว้แค่นั้นเอง

ตอนอยู่ในถุงนึกว่าปุ๋ยปั้นก้อนใหญ่

เอาออกมาดูอ๋อดินปั้นแปะออสโมโคส

และหลังจากให้ปุ๋ยนี้กับบัวแล้วก็พูดง่ายๆว่าให้ออสโมโคสนั่นแหละนะ ปรากฎว่าบัวงามดีมาก แตกกอแตกใบใหม่ หลังจากปผ่านไปซัก 2-3 อาทิตย์ ก็รู้เลยว่าได้ผลและงามดี และที่สำคัญปลาหางนกยูงในอ่างบัวไม่ตายด้วย

หลังจากนี้ผมก็คงหยอดออสโมโคสลงไปในบ่อบัวเป็นประจำแค่นี้ก็งามสะพรั่งชัวร์

ผมจึงได้รู้ว่าออสโมโคสที่ละลายน้ำได้ช้านั้นมันดีอย่างนี้นี่เอง เป็นปุ๋ยให้ไม้น้ำก็ได้ ว่างๆเดี๋ยวจะลองเอาออสโมโคสเลี้ยงไม้ปลาตู้บ้าง เพราะเลี้ยงไม้น้ำปลาตู้ทีไร ต้นไม้ไม่งามและตายทุกที แต่ว่าครีั้งนี้จะให้ออสโมโคสเป็นปุ๋ย ซึ่งผมคิดว่ามันประหยัดกว่าไปซื้อดินไม้น้ำซื้อปุ๋ยไม้น้ำโดยตรงที่เขาเลี้ยงปลากันอะนะ ประหยัดกว่ากันเยอะ

ไว้ผลการทดลองเป็นยังไงเดี๋ยวจะมาเล่าและเอาภาพมาให้ชมกันต่อไป

ปุ๋ย ออสโมโคส(ปุ๋ยเม็ดละลายช้า)

วันจันทร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 · Posted in ,

ปุ๋ยละลายช้า เป็นปุ๋ยที่บรรจุอยู่ในรูปแบบเม็ด จะค่อยๆ ปลดปล่อยธาตุอาหารออกมาอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ การใส่ปุ๋ยครั้งเดียว จึงสามารถอยู่ได้นาน

 ปุ๋ย "ออสโมโค้ท" เป็นปุ่ยเม็ดละลายช้าชนิดหนึ่ง ที่เคลือบด้วยสารเรซินธรรมชาติ มีการควบคุมการปลดปล่อยธาตุอาหารอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ เมื่อใส่ปุ๋ยออสโมโค้ทในวัสดุปลูกนั่นน้ำจะซึมผ่านเข้าไปละลายธาตุอาหารที่มีอยู่ภายใน และค่อยซึมผ่านออกมา

ปุ๋ยออสโมโค้ทมีทั้งสูตรทั่วไป คือ 13-13-13 และสูตรเร่งดอก คือสูตร 12-25-6 ออสโมโค้ท ช่วยบำรุงต้นให้สมบูรณ์แข็งแรง กระตุ้นการออกดอก เหมาะสำหรับไม้ดอกไม้ประดับทั่วไป







อ่านเพิ่มเติมที่ http://www.panmai.com/Tip/Tip08/Tip08.shtml

ความเห็นผู้ที่เคยใช้ออสโมโคส

ต้นคริสติน่าในกระถาง

วันอังคารที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2556 · Posted in , ,

คริสติน่านั้นถ้าปลูกลงในดินแล้วคอยใส่ปุ๋ยเป็นระยะไม่มีปัญหาอะไรแน่นอนยังไงก็โตครับอยู่ที่ช้าหรือว่าเร็ว แต่ต้นที่เรายังหาที่ลงไม่ได้แล้วเลี้ยงเอาไว้ในกระถางนี่สิปัญหาครับ

อาการที่เป็นคือใบเล็กลงเหมือนไม่โตเต็มที่ และก็ไม่โตสังเกตได้ง่ายๆทีใบก็ไม่ใหญ่เต็มที่ ลำต้นหรือกิ่ที่แตกใหม่ก็เล็กและอ่อนมากจนต้องใช้ไม้ค้ำยัน ไม่เหมือนกับต้นที่ลงดินครับใบใหญ่เต็มที่ แตกกิ่งก้านเร็ว

ตอนนี้เท่าที่แก้ไขเบี้องต้นไปก็ใส่ปุ๋ยหมักที่ทำเองไป แล้วก็ปุ๋ยเม็ดสูตร 16-16-16 เคยถามร้านต้นไม้เขาบอกให้ใส่ ออสโมโคสไปด้วย แต่ว่าตอนนี้ยังไม่ได้ใช้ออสโมโคสครับ ว่าจะลองให้รู้ก่อน ถ้าไม่ดีขึ้นก็ว่าจะเอาออสโมโคทมาเสริมอีกตัว

แน่นอนว่าการเลี้ยงต้นไม้ก็เหมือนการเลี้ยงสิ่งมีวิต ต้องการน้ำต้องการอาหาร อากาศ แสงแดด อยู่ที่ว่าเราให้อะไรไม่พอหรือมากไป และถ้าหาสิ่งที่ขาดไปหรือมากไปนั้นได้ เราก็จะเข้าใจและเลี้ยงต้นไม้ได้สวยงามแน่นอน

ต้นคริสติน่า - การเติบโต

วันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2556 · Posted in ,

ครับพูดถึงคริสติน่าแล้วข้อดีของต้นไม้ชนิดนี้มีเยอะมากไม่ว่าจะสวยงาม ใช้เป็นไม้ได้หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นไม้รั้ว ไม้เด่น ไม้เอก ได้หมดเลยแล้วแต่การตัดแต่งและการวางตำแหน่ง หรือจะทำเป็นทุ่งคริสติน่าต้นเตี้ยๆแทนทุ่งดอกไม้ก็ยังได้ วันนี้เรามาคุยถึงเรื่องการเติบโตของมันกัน



คริสติน่านั้นผมเชื่อนะครับว่ามันน่าจะเป็นต้นไม้ที่โตเร็ว ถ้าหากว่ารากมันแข็งแรงแล้ว แต่ไม่ใช่ว่าเป็นต้นที่เพิ่งจะลงดินใหม่ๆนะครับ เมื่อก่อนผมเชื่อแบบนี้

ผมมีคริสติน่าต้นใหญ่สูงสัก 2 เมตรกว่าอยู่ต้นนึงปลูกมาได้เป็นปีแล้วน่าจะเข้าปีที่สอง ซึ่งแน่นอนผมใส่ปุ๋ยพรวนดินดูแลอย่างดี แต่การเติบโตก็ไม่ได้เร็วอย่างที่คิดนะครับ มันก็เติบโตอย่างช้าๆ ประมาณ เดือนละ 5-10 เซนเป็นอย่างมาก

ผมตั้งใจจะเอาคริสติน่าเป็นไม้บังแนวรั้วหน้าบ้าน เพื่อต้องการความเป็นส่วนตัวเวลาเปิดกระจกหน้าบ้านชั้นล่างออกมาดูสวนได้เป็นจุดพักสายตา เชื่อมั้ยผมซื้อต้นเล็กมาปลูกต้นละ 10-20 บาท ไม่แน่ใจประมาณ 10-15 ต้น ปลูกเรียงกันเป็นแถว ความสูงของต้นที่เริ่มลงดินคือ 30 เซนติเมตร

เวลาผ่านไปประมาณสักสองเดือน ความสูงไม่ได้เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด ได้แต่เริ่มแตกใบสีแดงใหม่ๆให้เห็น ไล่สีไปเป็นส้ม เหลืองแล้วก็เป็นเขียวแก่ เป็นแบบนี้วนไปวนมาเรื่อยๆ ซึ่งผมเองก็เข้าใจดีว่ารากคงยังไม่แข็งแรงเลยโตช้า

ตอนนี้ไม่แน่ใจเหมือนกันแล้วว่าผมคิดผิดหรือป่าวที่เอาต้นที่สูงแค่ 30 เซนลง เพราะว่าผมต้องการความสูงที่ 2.20 เมตร แล้วไปนึกเอาเองว่ามันจะสูงเร็วเหมือนกับชาดัด ซึ่งตอนนี้รู้สึกว่ามันจะไม่เป็นอย่างนั้นซะแล้ว แต่ยังไงลงไปแล้วตอนนี้คงต้องรอดูต่อไปว่ามันจะชลูดเมื่อไหร่

อัปเดทล่าสุด สรุปได้แล้วครับว่าต้นคริสติน่าโตเร็วครับ ต่อเมื่อรากลงดินเเข็งแรงแล้วเท่านั้นนะครับ ของผม 3 เดือนครับกว่ารากจะลงดินแข็งแรง และหลังจากนี้ จะสูงได้ประมาณ 30 เซนติเมตรต่อเดือนครับ ให้ปุ๋ยให้น้ำดีดี เรียกว่าตัดแต่งเพลินแน่นอนครับ

ถ้าใครศึกษาการปลูกการดูแลที่ทำให้มันเจริญเติบโตที่รากก่อนได้ก็ยิ่งจะทำให้ต้นคริสติน่าโตเร็วมากขึ้นครับคุณอาจจะทำได้เร็วกว่าผมก็ได้ครับ

ที่สำคัญเน้นว่าตัดแต่งทรงพุ่มบ่อยๆ กรรไกรตัดคมๆ จะทำให้พุ่มกิ่งก้านของต้นแน่นสวยดีที่สุดครับ

การทำปุ๋ยหมักจากเศษหญ้า

วันพุธที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2556 · Posted in ,

เพื่อนๆสังเกตมั้ยครับว่าเวลาเราตัดหญ้าในสวนของเราทีนึงเรียกว่าต้องทิ้งใบหญ้าเหล่านั้นไปเป็นถุงๆใหญ่ๆเลย รู้สึกว่ามันน่าเสียดายมากๆ ผมเคยคิดว่าจะเอามันวางโคนต้นไม้ดีหรือไม่แต่ต่อมาก็รู้ว่าเอามาทำปุ๋ยหมักเองก่อนดีกว่า

EM ที่ขายตามท้องตลาด


อุปกรณ์ก็มีดังนี้ครับ
- เศษหญ้า,เศษใบไม้
- น้ำหมักจุลินทรีย์หรือ EM
- ปุ๋ยคอก, ขี้วัว,
- ดิน

สำหรับวิธีทำก็ไม่ต้องไปซีเรียสมากครับแต่ถ้าจะให้ดีก็ใช้สัดส่วนตามนี้นะครับคือ เศษหญ้า 3 ส่วน ปุ๋ยคอก 1 ส่วน ดิน 1 ส่วน แต่ผมเองไม่เคยทำตามส่วนหรอกครับ บางทีไม่มีขี้วัวก็ไม่ได้ใส่เลย เน้นเศษใบไม้เศษหญ้าอย่างเดียวเลย

เอาเป็นว่าผสมคลุกเคล้ากันให้ทั่วๆนะครับจากนั้นก็เอา EM ผสมน้ำซักฝานึงหรือตามความเยอะของกองปุ๋ยที่ทำนะครับ ผสมน้ำแล้วเอาน้ำตาลทรายใส่ลงไปช้อนสองช้อน คนๆในละลาย จากนั้นละมือไปเอาน้ำฉีดกองปุ๋ยที่เราคลุกเคล้าเอาไว้เมื่อกี้นี้ให้เปียกให้ชุ่มเลย ถ้ามีคนช่วยฉีดก็ดี จะได้คลุกเคล้าไปฉีดน้ำไป จะเปียกทั่วกองดีและเร็วกว่าครับ

เสร็จแล้วเอาน้ำ EM ที่เราผสมเตรียมไว้เมื่อกี้นี้มาราดลงบนกองปุ๋ยให้ทั่วๆครับ เทที่ละนิดช้าๆให้มันซึมลงไปในกองปุ๋ยทั่วๆครับ

หลังจากนั้นหาถุงปุ๋ยหรือผ้ายางมาคลุมปิดให้มิดครับ ให้กองปุ๋ยนั้นเปียกชื้นตลอดอย่าให้แห้งเด็ดขาด จะทำหลังคาสังกะสีหรืออะไรบังแดดด้านบนอีกทีก็ดีครับ แต่สำคัญผ้ายางหรือวัสดุที่ปิดกองปุ๋ยต้องปิดให้มิดครับเป็นอันเสร็จ

ระหว่างนั้นเราก็คลุกเคล้าปุ๋ยอาทิตย์ละครั้ง ถ้าเริ่มแห้งก็รดน้ำให้ชุ่ม ถ้าแห้งมากก็เติม EM เข้าไปในกองเพิ่มครับ แต่ถ้ากองปุ๋ยเราชุ่มไม่แห้งก็ไม่ต้องเติมก็ได้ครับ

พยามคลุกเคล้าให้สม่ำเสมออาทิตย์ละครั้งประมาณสองเดือนเราก็จะได้ปุ๋ยหมักไว้ใช้แล้วครับ

ลักษณะปุ๋ยที่ใช้ได้แล้ว


ดูยังไงว่าใช้ได้แล้ว?
คำตอบคือ ทุกอย่างจะเปลี่ยนเป็นสีดำหรือสีเข้มขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกลายสภาพเป็นดินเลยครับ ถ้ากองปุ๋ยมีสีเข้ม และไม่เห็นเป็นใบไม้หรือว่าใบหญ็าแล้วและเป็นสีดำๆร่วนเหมือนดินนั่นแหละครับใช้ได้แล้ว

รั้วบ้าน สวนส่วนตัว

วันอังคารที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 · Posted in , , ,

เคยรู้สึกไหมครับว่า บ้านตามโครงการต่างๆสมัยนี้ ไม่ได้ให้ความสำคัญเรื่องความเป็นส่วนตัวในสวนเท่าไหร่ บางทีไม่ให้พื้นที่สวนเลยก็มี เรียกว่ามีแค่ที่จอดรถแล้วก็เดินเข้ากล่องเลย...

บางโครงการถนนซอยเล็กจนหน้าบ้านแทบจะเห็นเวลาเปลี่ยนเสื้อผ้ากันเลยทีเดียว บางครั้งบางเวลาคนที่อยู่ในบ้านก็ต้องการมองออกมาหน้าบ้านข้างบ้านที่เป็นสวน ต้นไม้ เพื่อเป็นการเชื่อมต่อห้องบ้านกับสวน เพื่อพักผ่อนได้ตลอดทั้งวัน แต่ว่าตอนนี้ทำไม่ได้เพราะว่าเปิดไปก็เห็นบ้านตรงข้าม หรือข้างบ้านทำให้ความเป็นส่วนตัวไม่มีเลย ทางแก้มีทางเดียวนั่นคือทำรั้ว...

รั้วที่ทึบอาจจะมองว่ามันอึดอัดไม่โปร่ง แต่ข้อดีของมันก็ตรงตัวเลยคือบังสายตาจากผู้คนภายนอกร้อยเปอร์เซ็นต์ แน่นอนว่าความเป็นส่วนตัวกลับคืนมาหาคุณแน่นอน ซึ่งถ้าอยากเป็นส่วนตัวคุณก็ต้องยอมรับให้ได้ว่า ลมอาจผ่านได้ยากขึ้น แสงตรงรั้วทึบนั้นอาจจะน้อยสำหรับต้นไม้บางชนิด ซึ่งก็ต้องปรับต้นไม้ตาม ลองดูรั้วเหล่านี้ดู

แบบแรกนี้เห็นกันบ่อยอยู่แล้วเป็นรั้วประตูระแนงซึ่งก็ดูสวยเรียบร้อยดี แต่ผมว่ามันดูน่าเบื่อถ้าหากว่าเราทำแบบนี้ทั้งแผงยาวๆตลอดรั้วของเรา


แบบนี้เป็นแบบที่ผมแนะนำครับ
อันแรกจะเป็นลักษณะของรั้วบ้านเดิมที่ต่ำเหมือนรั้วตามโครงการทั่วไปที่จะต่ำกว่าหัวคน ซึ่งอันนี้เขาใช้ต้นไม้เพิ่มความสูงให้รั้ว ส่วนรั้วเดิมก็ใช้ไม้ระแนงพรางสายตา จะเห็นว่าการเลือกใช้สีขาวจะพรางตาได้ดีกว่าสีดำเพราะสะท้อนแสงได้ดีกว่าแต่ว่าก็ไม่กลืนเข้ากับธรรมชาติสีเขียวของต้นไม้เท่าสีดำที่จะกลืนไปกับต้นไม้มากกว่า แต่แน่นอนการพรางก็น้อยกว่าสีขาว

แบบนี้เป็นอีกแบบที่น่าสนใจเพราะเลือกที่จะบังร้อยเปอร์เซ็นต์ในจุดที่ต้องการความเป็นส่วนตัวครับ จะเป็นได้ชัดเลยว่าห้องนั่งเล่นที่อยู่ชั้นล่างนั้นสามารถมองออกมาหน้าบ้านได้สบายๆไม่ต้องไปกระทบกระเทือนบ้านตรงข้ามหรือผู้ผ่านไปมาครับ อีกอย่างรั้วแบบนี้ดูเรียบๆจริงแต่ว่าดูไม่น่าเบื่อเพราะเขาได้ให้ความแตกต่างเอาไว้ระหว่างส่วนทึบกับส่วนโปร่ง และการใช้สีที่ดูหรูครับ น่าสนใจมากแบบนี้


แต่ละแบบแน่นอนว่าต้องใช้เงินกันอีกแล้วที่จะทำให้ได้ตามนั้น บางแบบต้องใช้เวลาเลี้ยงต้นไม้จนโตเป็นพุ่มที่ต้องการ แต่แน่นอนว่าคุณค่าของแต่ละแบบก็จะต่างกันออกไป ก็อยู่ที่เราจะเลือกแล้วครับว่าเราจะทำแบบไหนที่เป็นส่วนตัวและประหยัดตังเราเอง

เชื่อเถอะครับสำหรับคนชอบปลูกต้นไม้ ทำแล้วต่อไปจะเดินจะนั่งจะมองก็สบายใจ สายตาจะได้ไม่เลยไปบ้านที่อยู่ติดกัน เหมือนผมตอนนี้รู้สึกจะทำสวนก็เกรงใจข้างบ้านครับเพราะว่ามันมองเห็นกันหมดเลย ตอนนี้กำลังเลี้ยงต้นไม้เป็นรั้วบังส่วนห้องนั่งเล่นอยู่แล้วไงจะอัพเดทให้ดูกันครับ

siteam2015@hotmail.com. ขับเคลื่อนโดย Blogger.

โลกเราสวยงามได้เพราะว่าต้นไม้เท่านั้น ต้นไม้ให้เราได้ืทุกอย่าง ต้นไม้ไม่เคยทำร้ายเรา และเราเองก็ไม่ควรไปทำลายต้นไม้นะครับ มารักต้นไม้กันเถอะครับ

Popular Posts